วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

 Details (รายละเอียดรายละเอียด)
         
             (Details) คือ ข้อเท็จจริง หรือข้อมูล ที่ขยาย หรือสนับสนุนใจความสำคัญ (Main Idea) จึงมักเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "รายละเอียดสนับสนุน" (Supporting Details)
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. รายละเอียดสนับสนุนหลัก (Major supporting detail) เป็นรายละเอียดที่ทำหน้าที่ขยายหรือสนับสนุนใจความสำคัญ (Main Idea)
2. รายละเอียดสนับสนุนรอง (Minor supporting detail) เป็นรายละเอียดที่ทำหน้าที่ขยายหรือสนับสนุนรายละเอียดสนับสนุนหลัก (Major supporting detail) อีกทีหนึ่ง เช่น

Various animals can be treated by people to do skillful things. At the circus the animals we see often perform very entertaining tricks. Tigers jump through flaming hoops and bears ride bicycles.

- Main Idea อยู่ที่ประโยคหัวข้อเรื่อง (Topic Sentence) ซึ่งได้แก่ ประโยคแรก
คือ Various animals can be treated by people to do skillful things. (มีสัตว์มากมาย
หลายชนิดที่มนุษย์สามารถฝึกให้ทำอะไร ๆ ได้)
- รายละเอียดสนับสนุนหลัก (Major supporting detail) อยู่ที่ประโยคที่ 2 คือ At the circus the animals we see often perform very entertaining tricks. (ที่คณะละครสัตว์ เราจะเห็นสัตว์ต่าง ๆ แสดงความสามารถให้เราชมอย่างสนุกสนาน)
- รายละเอียดสนับสนุนรอง (Minor supporting detail) อยู่ที่ประโยคที่ 3 คือ
Tigers jump through flaming hoops and bears ride bicycles. (เสือกระโดดลอดห่วงไฟ
และหมีขี่จักรยาน)


  การหารายละเอียด (Scanning for Details)

       ในการอ่านโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน ข่าวจากหนังสือพิมพ์ บทความหรือข้อความโฆษณาต่าง ๆ หรือ สิ่งตีพิมพ์ที่พบอยู่ในชีวิตประจำวัน ประการแรกที่ผู้อ่านจะต้องกระทำได้แก่ การถามตัวเองว่าอ่านเกี่ยวกับเรื่องอะไร (Topic) และมีสาระสำคัญอะไรบ้าง (Main Idea) จากนั้นเมื่อผู้อ่านสนใจเรื่องราวดังกล่าว ก็มักจะต้องอ่านรายละเอียด (Details) ซึ่งรายละเอียดนี้จะมีประโยชน์หลายประการด้วยกัน กล่าวคือ
       1. การเข้าใจรายละเอียด จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจสาระสำคัญของเรื่องได้ชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
       2. หากผู้อ่านเข้าใจรายละเอียด ย่อมทำให้การอ่านข้อความนั้น ๆ ง่ายขึ้น
       3. รายละเอียดจะช่วยให้ผู้อ่านมองเห็นการจัดรูปแบบของข้อความว่าผู้เขียนนำเสนอในรูปแบบใด เช่น เรื่องตามลำดับเหตุการณ์ (order) เป็นขั้นตอน (step) หรือเป็นเหตุผลแก่กัน (Cause and effect) เป็นต้น
       4. ประการสำคัญที่สุด สำหรับผู้อ่านที่เป็น นักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็คือ ข้อสอบมักถามเกี่ยวกับรายละเอียดเป็นส่วนใหญ่
        ดังนั้นการจะทำให้ได้คะแนนดีหรือสามารถสอบผ่านการแข่งขันในสนามสอบต่างๆได้ ย่อมหมายถึงผู้อ่านต้องเข้าใจรายละเอียดของข้อความนั้นๆเป็นอย่างดี จะพบว่า การเข้าใจรายละเอียดของเรื่องที่อ่าน เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งที่ผู้อ่านต้องฝึกฝนให้เกิดทักษะ และ Scanning ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการหารายละเอียดของเรื่อง
       Scanning ได้แก่ การอ่านข้อความอย่างรวดเร็ว เพื่อหาคำตอบที่ต้องการ โดยที่ผู้อ่านจะมุ่งเน้นไปที่การหาคำตอบของสิ่งที่สงสัยหรือคำถาม และสนใจคำหรือกลุ่มคำที่จะช่วยตอบคำถามนั้นได้โดยที่ผู้อ่านอาจจะละเลย ข้อความที่ไม่เกี่ยวข้อง เมื่อผู้อ่านพบคำตอบที่ต้องการแล้วก็จะอ่านอย่างถี่ถ้วนระมัดระวังเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องนั้น ๆ
       โดยทั่วไป เรามักจะ Scanning สิ่งที่พบในชีวิตประจำวันต่างๆมากมาย เช่น ได้แก่ การหาเบอร์โทรศัพท์ในสมุดโทรศัพท์ (a telephone book) ค้นหาดรรชนีในหนังสือตำราเรียน (an index in a textbook) อ่านโฆษณาต่างๆในหนังสือพิมพ์ (the ads in a newspaper) หรือแม้กระทั่ง การค้นหาในพจนานุกรม (Finding words in a dictionary) เป็นต้น
       ขั้นตอนในการอ่านด้วยวิธีการ Scanning มีดังต่อไปนี้
        1. ในการทำข้อสอบ ขอแนะนำให้ผู้อ่านได้อ่านคำถามเกี่ยวกับข้อความนั้น ๆ ก่อน เพื่อประหยัดเวลาและช่วยในการหาคำตอบได้รวดเร็วขึ้น
        2. อ่านข้อความอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อพบคำหรือกลุ่มคำที่บอกเกี่ยวกับคำตอบที่ต้องการ ให้อ่านช้าลงและอ่านด้วยความรอบคอบระมัดระวัง
        3. พยายามหาคำหรือกลุ่มคำที่สำคัญ (key words and phrases) ที่จะช่วยให้ได้คำตอบหรือรายละเอียดที่ถูกต้อง
        4. หากเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ (multiple choices) ให้กำจัดคำตอบที่ผิดออก และเลือกคำตอบที่ดีที่สุดที่เหลืออยู่
        5. ระวังคำถามเกี่ยวกับข้อความที่ไม่ถูกต้องหรือไม่มีในเรื่อง ผู้อ่านต้องเลือกคำตอบที่ไม่ถูกต้อง (ผิด) หรือคำตอบที่ไม่ได้กล่าวไว้ในเรื่องนั้น ๆ
   คำถามให้หารายละเอียดจากบทความที่อ่านนั้นต้องการจะทดสอบว่าเข้าใจในรายละเอียด
ของเรื่องที่ถามหรือไม่ ลักษณะคำถามให้หารายละเอียดนั้นจะมีการถามคำถาม และให้ตอบอยู่ 3 ลักษณะ
ได้แก่
        1. การระบุข้อเท็จจริง True/false
    
จุดประสงค์ของข้อสอบชนิดนี้ต้องการจะทดสอบว่า ผู้อ่านรู้รายละเอียดจากเรื่องที่อ่านได้แม่นยำถูกต้องเพียงใดเป็นการระบุข้อเท็จจริงที่ได้จากการอ่าน
        2. การเข้าใจข้อยกเว้น (UNDERSTANDING EXEPTIONS)
    บางครั้งในการอ่านรายละเอียด ของเรื่องผู้ถามอาจจะถามว่าข้อใดไม่ได้บอกไว้ในเรื่องวิธีการทำให้พิจารณาดูคำตอบในแต่ละข้อ ว่าข้อใดไม่ได้บอกไว้ในเนื้อเรื่อง หรือไม่มีอยู่ในที่ถามถือว่าตัวเลือกนั้นถูกต้อง
            ลักษณะคำถามมี 3 ชนิด
       ชนิดที่ 1 
     ชนิดที่หาข้อยกเว้นจากเรื่องได้เลยโดยดูตัวเลือกกับเนื้อเรื่องว่าข้อใดไม่มีถือว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง
        ตัวอย่าง
Today’s readers look for knowledge and information through more than just an encyclopedia. Knowledge, information, data, and images race around the world in
ever-increasing speed. With a quick press of a key on the computer keyboard, data
from some of the great libraries in the world can be called onto a screen for immediate perusal.

Question: The author mentions all of the following means of accessing information EXCEPT ……
a. encyclopedias             b. television
c. computers                  d. libraries

        จากคำถามได้ถามว่าผู้เขียนกล่าวถึงวิธีของการเข้าถึงข้อมูลยกเว้นวิธีใด คำตอบคือข้อ b. television (โทรทัศน์) เพราะว่าไม่อยู่ในเนื้อเรื่อง จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ส่วนข้อ a. encyclopedias (สารานุกรม) ข้อ c. computer (คอมพิวเตอร์) และข้อ d. libraries (ห้องสมุด)  ดังนั้นข้อ a, c, d จึงเป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้อง
        ชนิดที่ 2    ชนิดที่เปลี่ยนคำศัพท์จากตัวเลือกกับเนื้อเรื่องแต่มีความหมายเหมือนกันข้อสอบชนิดนี้ต้องมีความรู้ ในเรื่องคำศัพท์มากพอสมควรจึงจะทำข้อสอบลักษณะนี้ได้
        ตัวอย่าง 
        According to Wayne’s study, the U.S. interpretation of silence are sorrow, criticism obligation, regret, and embarrassment Australian interpretation proved to be similar to the U.S. ones. However, the Japanese attitude toward silence is favorable. Ishikawa’s on businessmen and businesswomen in Tokyo revealed that men need to be silent to be successful in life and that 65 percent of businesswomen would choose man to marry.

        Question: Wayne’s study report that the US interprets silence as all of the following EXCEPT ……………
        a. blame             b. shame         c. anger         d. sadness
      จากคำถามได้ถามว่าการศึกษาของ Wayne รายงานว่าการตีความเรื่องความเงียบของอเมริกา
ยกเว้นข้อ c. anger (ความโกรธ) เป็นคำตอบที่ถูกต้อง โดยดูว่าจากบรรทัดที่ 1-2 ที่ว่า “According to Wayne’s study, the U.S. interpretation of silence are sorrow, criticism, obligation, regret, and embarrassment”. ข้อ a. blame (ตำหนิ) จะตรงกับคำศัพท์ที่ว่า criticism (วิจารณ์)
ข้อ b. shame (ละอาย) จะตรงกับคำว่า embarrassment (เขินอาย) ข้อ d. sadness (ความเศร้า) จะตรงกับคำว่า sorrow (เสียใจ) และ regret (เศร้าใจ)


             ชนิดที่ 3 

ชนิดที่หาข้อที่ผิดจากเนื้อเรื่องโดยไม่มีตัวชี้แนะในคำถาม
        ตัวอย่าง
       When the wasp larva leaves the egg it begins eating the blood and fat of the corn earthworm. In a short period of time, the earworm dies. The wasp lays only one egg in the worm. If another worm attacks the plant, it will release another chemical signal. The wasp may return to the plants if it smells the chemical. But, having marked the first worm with its own special smell, the wasp will pass it by and look for the second worm.
Question:   Which of the following is not true ?
a. The wasp uses the earworm as a host.
       b. The wasp’s egg feeds on the earworm.
c. The wasp’s eggs develops in the earworm.
d. A chemical signal leads the wasp to the earworm.
       จากคำถามถามว่าข้อใดต่อไปนี้ข้อใดไม่ถูกต้องจะเห็นได้ว่าบนคำถามไม่มีตัวชี้แนะ (clue) เลย ขั้นตอนในการทำคือ ให้ดูตัวเลือกทีละข้อไปยังเนื้อเรื่องจนกว่าจะเจอข้อที่ไม่ได้ถามไว้ในเนื้อเรื่อง
       1. ดูตัวเลือกข้อที่ a. The wasp uses the earworm as a host. มีความหมายว่า “ตัวต่อใช้ตัวหนอนเป็นที่อยู่” ประโยค ที่ว่า In a short period of time, the earworm dies. The wasp lays only one egg in the worm. หมายความว่า “ในช่วงเวลาอันสั้นตัวหนอนตายตัวต่อออกไข่หนึ่งฟองไว้ในตัวหนอน” นั่นย่อมแสดงว่า ตัวต่อใช้ตัวหนอนเป็นที่วางไข่ซึ่งเป็นที่ของมันอยู่”ข้อนี้เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องตามในเนื้อเรื่องแต่คำถาม ให้หาข้อผิด
       2. ไปดูตัวเลือกข้อที่ b ที่ว่า “the wasp’s egg feed on the earworm” หมายความว่า “ไข่ของตัวต่อมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินตัวหนอน” อยู่ประโยคที่ว่า “When the wasp larva leaves the egg it begins eating the blood and fat of the corn earworm” หมายความว่า “เมื่อตัวอ่อนของตัวต่อออกจากไข่มันเริ่มกินเลือดและไขมันของตัวหนอน” ดังนั้นตัวเลือกข้อนี้ไม่ตรงกับเนื้อเรื่องจึงถือว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง
       3. ตัวเลือกข้อที่ c ที่ว่า “The wasp’s egg develops in the earworm” หมายความว่า
“ไข่ของตัวต่อ เจริญเติบโตในตัวหนอน” ซึ่งอยู่ในประโยคทีว่า “The wasp lays only one egg in the worm” หมายความว่า “ตัวต่อออกไข่ 1 ฟอง ไว้ในตัวหนอน” นั่นย่อมหมายความว่าไข่ของตัวต่อเจริญเติบโตในหนอน จึงตรงกับเนื้อเรื่อง แต่เป็นข้อที่ไม่ถูกต้อง
       4. ตัวเลือกข้อที่ d ที่ว่า “A chemical signal leads the wasp to the earworm” หมายความว่า สัญญาณทางเคมีนำตัวต่อไปหาตัวหนอน ดูจากประโยคที่ว่า “If another worm attacks the plant, it will release another chemical signal. The wasp may return to the plants if it smells the chemical. But, having marked the first worm with its own special smell, the wasp will pass it by and look for the second worm.” หมายความว่า “ถ้าตัวหนอนจู่โจมต้นไม้ ต้นไม้จะปล่อยสารเคมี ตัวต่ออาจจะกลับไปที่ต้นไม้ ถ้ามันได้กลิ่นสารเคมี แต่มันจะทำเครื่องหมายไว้บนตัวต่อตัวแรกด้วยกลิ่นพิเศษของมันตัวต่อจะผ่านมันไปและ มองหาตัวหนอนตัวที่สอง” นั้นย่อมแสดงว่า “สารเคมีนำตัวต่อไปหาตัวหนอน” ข้อนี้ถูกต้องตามเนื้อเรื่อง แต่ไม่ถูกต้องตามคำถามที่ให้ไว้

  3. การเข้าใจรายละเอียดของเรื่อง (Understanding Details)    
    จุดประสงค์เพื่อต้องการทดสอบว่าผู้อ่านมีความเข้าใจรายละเอียดของเรื่องที่อ่านได้หรือไม่
จากสิ่งที่ผู้เขียนต้องการถามเนื้อหาที่ปรากฏอยู่ในบทความ
วิธีการทำในการหารายละเอียดจากเรื่องนั้น มีวิธีทำดังตัวอย่างต่อไปนี้
For almost 40 years, creationists have claimed that these 15-to 20 inch-long footprints are proof that man and dinosaur coexisted, and therefore that evolution never occurred. For their part, evolutionists have contented that tracks are either dinosaurian or erosion marks.

Question:
For about 40 year the evolutionists have argued that the 15- to 20-inch-long
footprints were……….
      a. made by dinosaurs millions of years ago
      b. developed from the oddest dinosaur ever found
      c. intermingled with other dinosaur tracks
      d. caused by rain and wind or by dinosaurs

เฉลย ข้อ d caused by rain and wind or by dinosaurs
คำอธิบาย : ประมาณ 40 ปี นักวิวัฒนาการได้โต้แย้งว่า รอยเท้าที่มีความยาว 15 ถึง 20 นิ้ว
เป็นสาเหตุมาจากฝนและลมหรือเกิดจากไดโนเสาร์
วิเคราะห์ : ดูตัวชี้แนะในคำถามคือ “evolutionists” นักวิวัฒนาการ ขีดเส้นให้จบประโยค
“For their part, evolutionists have contented that tracks are either dinosaurian
or erosion marks.” นักวิวัฒนาการได้โต้แย้งว่ารอยเท้าอาจจะมาจากไดโนเสาร์
หรือเกิดจากการกัดเซาะ(ลม,ฝน)
ข้อ a made by dinosaurs millions of years ago = ทำขึ้นโดยไดโนเสาร์เมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมา (ไม่ได้บอกในเนื้อ เรื่อง)
ข้อ b developed from the oddest dinosaur ever found = พัฒนาจากไดโนเสาร์ที่แปลกที่สุดเท่าที่พบมา
ข้อ c intermingled with other dinosaur tracks = ผสมผสานระหว่างรอยเท้าไดโนเสาร์อื่นๆ

คำถามที่นิยมใช้ในการถามเกี่ยวกับรายละเอียด (Details)
1. According to the passage, which of the following statement is true?
2. Which of the following statement is inaccurate according to the passage?
3. Which of the following is not true?
4. All of the following are true except .....
5. The passage states that .....
6. The author states that .....
7. What does the author say about .....
8. The idea which is not stated in the passage is .....
9. One thing the passage did not mention was .....
10. Which of the following is not stated in the passage .....


1 ความคิดเห็น:

  1. LuckyClub Casino Site | Best Bet on Mobile and Desktop - LuckyClub
    Our comprehensive LuckyClub Casino review looks at all the features, games, and software developers you can expect luckyclub.live from Lucky Club mobile casinos.

    ตอบลบ